วีเนียร์
การทำวีเนียร์ หรือการปรับปรุงสภาพฟันเพื่อแก้ความบกพร่องของผิวฟัน แก้ปัญหาฟันไม่สวย ฟันบิ่น ฟันสึก ฟันแตกหัก ฟันสีเหลืองหมองคล้ำ หรือฟันขนาดไม่เท่ากันให้กลับมามีรอยยิ้มที่ขาวใสสวยงามโดยทำวีเนียร์กับทันตแพทย์เฉพาะทาง
1.วีเนียร์คืออะไร
วีเนียร์ คือเทคนิคทางทันตกรรมที่ใช้บูรณะแก้ไขฟันที่มีสี รูปร่าง ขนาด ความยาวของฟันที่ไม่สวยงาม ช่วยในเรื่องความสวยงามน่ามอง และป้องกันการทำร้ายผิวฟัน ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทำจากวัสดุพิเศษที่บางมาก แต่มีความแข็งแรงและมีอายุการใช้งานยาวนานนับสิบ ๆ ปี ลักษณะเหมือนกับฟันธรรมชาติมากจนแทบแยกไม่ออก ปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนามากขึ้น ทำให้การทำวีเนียร์มีราคาถูกลง ทำให้ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องสีฟันไม่สม่ำเสมอ ฟันดำฟันคล้ำ สามารถเลือกทำวีเนียร์ได้อย่างสบาย
2.วีเนียร์ทำในฟันที่มีปัญหาแบบไหนบ้าง
หากคุณกำลังมีปัญหาฟันรูปร่าง สี ช่องว่างฟันไม่สวยงาม ลองดูว่า 6 ปัญหาฟันแบบไหนที่เหมาะสำหรับการทำวีเนียร์
2.1 ฟันเหลือง ฟันคล้ำ — ปัญหาฟันเหลือง ฟันหมองคล้ำ ไม่ว่าจะมาจากยาปฏิชีวนะ ฟันตาย ฟันได้รับอุบัติเหตุ รวมถึงฟันไม่ค่อยตอบสนองต่อการฟอกสีฟัน
2.2 ฟันห่าง – วีเนียร์ใช้ปิดช่องว่างระหว่างฟันได้ รวมถึงยังรักษาได้เรื่องของการจัดฟัน
2.3 ฟันตกกระ – เกิดจากการได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณที่มากเกินไป จนส่งผลกระทบการสร้างชั้นเคลือบฟัน หาไม่มากอาจแก้ไขได้ด้วยการฟอกฟันขาว หากรุนแรงต้องรักษาด้วนการทำวีเนียร์
2.4 ฟันบิ่น – ฟันบิ่น ฟันร้าว ฟันแตกหักจากอุบัติเหตุ สามารถแก้ไขได้ด้วยการรักษาวีเนียร์
2.5 ฟันรูปร่างผิดปกติ – ฟันที่รูปร่างไม่สมส่วน ฟันเล็ก ฟันใหญ่เกินไป อาจทำให้ไม่มั่นใจในเวลายิ้ม สามารถแก้ไขได้ด้วยเรื่องรูปร่าง ขนาดของฟันให้สวยงามได้
2.6 ฟันผิวขรุขระ ฟันสึกกร่อน – ลักษณะผิวเคลือบฟันสีไม่สวย ฟันขรุขระหรือสึกกร่อนมาก ไม่ว่าจะเกิดจากธรรมชาติ จากอุบัติเหตุ ทั้งหมดสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำวีเนียร์
3.วีเนียร์มีกี่ประเภท (คอมโพสิตวีเนียร์ และ เซรามิกวีเนียร์)
วัสดุวีเนียร์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ที่นำมาใช้ในการรักษา แต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน
3.1 คอมโพสิตวีเนียร์ Composite Veneer
ทำจากวัสดุอุดฟันที่มีสีเหมือนฟัน วัสดุผสมระหว่างเรซินและซิลิกา มีความคงทนของสี ความเรียบเงา เป็นวีเนียร์ที่ถูกทำขึ้นในคลินิก หากเกิดการแตกหัก ทันตแพทย์สามารถซ่อมแซมให้ได้ภายในคลินิกได้ ต้องอาศัยทันตแพทย์ที่ทำวีเนียร์ผู้มีประสบการณ์และมีฝีมือเป็นอย่างมาก
ข้อดีของคอมโพสิตวีเนียร์ – ไม่จำเป็นต้องกรอฟันมากจนเกินไป มีราคาถูก มีอายุการใช้งานยาวนาน 10-15 ปี
ข้อเสียของคอมโพสิตวีเนียร์ – ใช้เวลาทำนาน หากควบคุมวัสดุอุดบริเวณขอบไม่ดีพอจะทำให้เกิดปัญหากลิ่นปาก เหงือกอักเสบ
3.2 เซรามิกวีเนียร์ Ceramic Veneer, Porcelain Veneer
เป็นวัสดุที่มีลักษณะแวววาวคล้ายฟันจริง มีความคงทน ทนทานกว่า ไม่ดูดซึมน้ำและคราบอาหาร มีราคาสูงกว่ามาก ใช้เวลาติดตั้งนานกว่าเนื่องจากต้องนำไปขึ้นรูปและผ่านกระบวนการให้ห้องแล็ป
ข้อดีของเซรามิกวีเนียร์ – เรื่องความเงางามเหมือนฟันธรรมชาติ ความคงทนของสี ต่อการติดสีจากคราบเครื่องดื่มและอาหาร มีความแข็งแรง และอายุการใช้งานยาวนาน 10-20 ปี
ข้อเสียของเซรามิกวีเนียร์ – ถ้าวีเนียร์แตกหักหรือชำรุด จะต้องรื้อทำใหม่ทั้งหมด มีราคาสูง
4.ข้อดีของการทำวีเนียร์
- ช่วยตกแต่งรูปร่างฟัน และปกปิดสีฟันที่ผิดปกติได้
- ช่วยปิดช่องว่างในกรณีฟันห่าง
- ช่วยให้ฟันมีความแข็งแรง คงทน และยากต่อการติดคราบของอาหาร เครื่องดื่ม และบุหรี่
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และความสวยงามให้ฟันและรอยยิ้ม
- ช่วยปรับปรุงสภาพฟันให้กลับมาดูดีขึ้นได้อีกครั้ง
5.เน้นว่า วีเนียร์ต้องทำกับทันตแพทย์เฉพาะทางเท่านั้นเพื่อให้ผลออกมาดีที่สุด
การทำวีเนียร์ จำเป็นอย่างยิ่งต้องอาศัยฝีมือทันตแพทย์เฉพาะทางเป็นผู้ให้การรักษา เนื่องจาก การทำวีเนียร์เป็นชิ้นงานการออกแบบที่จะเป็นเอกลักษณ์ติดตัวคนไข้ไปตลอด และที่ Smile Dental Group เรามีทันตแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากสมาคมทันตกรรมเพื่อความสวยงามว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบรอยยิ้มให้สวยงามในแบบฉบับของตัวคนไข้ และเข้ากับบุคลิกภาพของคนไข้นั้น ๆ และป้องกันการเกิดปัญหาหรือผลข้างเคียงเมื่อได้ใช้งานจริงในระยะยาว สิ่งสำคัญควรเลือกทำกับคลินิกทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและความสวยงามของการทำวีเนียร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เนื่องจากการทำวีเนียร์เป็นงานทันตกรรมที่ต้องอาศัยหลักวิชาการเฉพาะทาง ตั้งแต่การวิเคราะห์ การวางแผนการรักษา การทำพิมพ์ การทำโมเดล การทำวีเนียร์จำลอง การกรอผิวฟัน การพิมพ์ฟัน การยึดวีเนียร์เข้ากับผิวฟัน และการปรับแต่งวีเนียร์ให้ใช้งานได้จริง ทุกกระบวนการจะต้องอาศัยทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความแม่นยำในรายละเอียดเท่านั้น แต่ละขั้นตอนต้องทำด้วยความเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นงานที่พลาดไม่ได้เลย การเลือกทำวีเนียร์กับทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความรู้และทักษะเฉพาะทางนี้โดยตรง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและป้องกันการเกิดปัญหารวมถึงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เมื่อใช้งานจริงในระยะยาว